สัมผัส Geely EX2 แฮทช์แบ็กไฟฟ้า ก่อนเปิดตัวในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2025

ธนบุรีนอยสเติร์น และ GEELY เตรียมเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า GEELY EX2 ในงาน Motor Expo 2025 คาดราคา GEELY EX2 อยู่ในช่วงประมาณ 500,000 -700,000 บาท โดยล่าสุด บริษัท ธนบุรีนอยสเติร์น จำกัด ได้จัดกิจกรรม“Geely EX2 Extra in Ordinary เส้นทาง กรุงเทพ-นครปฐม" ให้สื่อมวลชนร่วมสัมผัสรถคันจริง

GEELY EX2 รถไฟฟ้ารุ่นเล็กทรงแฮทช์แบ็ก 5 ประตู จากค่าย GEELY มี 2 รุ่นย่อย คือ รุ่น PRO และรุ่น MAX โดย GEELY EX2 เป็นรถยนต์ไฟฟ้าแฮทช์แบ็ก 5 ประตูขนาดเล็ก นำเข้าและจัดจำหน่ายโดยกลุ่มธนบุรี ภายใต้ชื่อ บริษัท ธนบุรีนอยสเติร์น จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์แบรนด์ จีลี่ (GEELY) อย่างเป็นทางการในประเทศไทย โดยปัจจุบันมีรถที่จำหน่ายไปแล้ว คือ GEELY EX5

GEELY EX2 มีมิติตัวถังยาว 4,135 มิลลิเมตร กว้าง 1,850 มิลลิเมตร สูง 1,580 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,650 มิลลิเมตร และมีความสูงใต้ท้องรถ 162 มิลลิเมตร พื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายรองรับได้ทุกกิจกรรม บรรทุกสูงสุดได้ถึง 1,320 ลิตร

GEELY EX2 ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 85 กิโลวัตต์ (116 PS) แรงบิดสูงสุด 150 นิวตัน-เมตร ขับเคลื่อนล้อหลัง อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 11.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 130 กม./ชม. โดยสามารถเลือกโหมดการขับขี่ 3 รูปแบบ คือ ECO, COMFORT และ SPORT ซึ่งทั้ง 2 รุ่นย่อยติดตั้งแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนฟอสเฟต (LFP) ขนาดความจุ 39.4 กิโลวัตต์ชั่วโมง ระยะทางขับขี่สูงสุด 325 กม. (WLTP) หรือสูงสุด 395 กม. (NEDC) รองรับการชาร์จด่วน DC กำลังสูงสุด 70 กิโลวัตต์ ชาร์จจาก 30-80% ภายในระยะเวลา 25 นาที พร้อมระบบจ่ายไฟไปยังอุปกรณ์ไฟฟ้า (V2L) เป็นมาตรฐาน

GEELY EX2 รุ่น PRO ติดตั้งอุปกรณ์มาตรฐาน อาทิเช่น ไฟหน้า LED, ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ, ระบบหน่วงเวลาปิดไฟหน้า Follow Me Home, มาตรวัดดิจิทัล LCD ขนาด 8.8 นิ้ว, จอสัมผัสอัจฉริยะ HD ขนาด 14.6 นิ้ว , ระบบดิสก์เบรก 4 ล้อ, ล้ออัลลอยด์ลายใบ Clovers 4 แฉก15 นิ้ว, เบาะหนังสังเคราะห์, ไฟอ่านหนังสือหน้า-หลังแบบ LED , ระบบปฏิบัติการ Flyme Auto และระบบเชื่อมต่อ CarbitLink (ระบบ Android Auto / Apple CarPlay เปิดให้บริการช่วงไตรมาสที่ 2 ปี 2569)

ส่วนของระบบความปลอดภัยรุ่น PRO ประกอบด้วย ระบบช่วยเตือนการชนด้านหลัง (RCW), ระบบช่วยเตือนจุดอับสายตา (BSD), ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (LCA), ระบบช่วยเตือนก่อนเปิดประตู (DOW), ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA), ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง ม่านถุงลม และกล้องมองภาพด้านหลัง เป็นต้น

และในรุ่น MAX สิ่งที่แตกต่างคือ ล้ออัลลอยด์ลายใบ Clovers 4 แฉก ขนาด 16 นิ้ว, ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ (IHBC), เบาะฝั่งผู้ขับขี่ปรับไฟฟ้าได้ 6 ทิศทาง, ช่อง USB สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง , ระบบชาร์จไฟไร้สาย , ไฟสร้างบรรยากาศ 256 สี , ระบบเชื่อมต่อ 4G, ระบบค้นหาและสั่งงานรถยนต์ผ่านสมาร์ทโฟน , กล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา (AVM) พร้อมโหมดแสดงภาพตัวรถแบบโปร่งแสง เป็นต้น สำหรับระบบความปลอดภัยรุ่น MAX เพิ่มเติมด้วย ระบบช่วยควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC), ระบบช่วยเตือนการชนด้านหน้า (FCW), ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB), ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW), ระบบช่วยตรวจสอบป้ายจราจร (TSI) และระบบช่วยเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (FVD)

สามารถทำความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในเวลา 11.5 วินาที และ Top Speed ถูกล็อกไว้ที่ 130 กิโลเมตร/ ชั่วโมง ช่วงล่างด้านหน้าแบบแม็คฟอร์สันสตรัท ด้านหลังแบบมัลติลิงค์ ระบบเบรกด้านหน้าเป็นดิสก์เบรกแบบที่มีช่องระบายความร้อน ส่วนด้านหลังเป็นดิสก์เบรกธรรมดา มีระบบการเบรกเพื่อจ่ายพลังงานกลับคืนปรับได้ 3 ระดับ 

สัมผัสคันจริง ต้องบอกว่า GEELY EX2 เป็นรถออกแบบที่สวยสะดุดตา ขนาดของตัวรถไม่เล็กมากและก็ไม่ได้ใหญ่จนเกินไป  GEELY EX2 มีขนาดที่พอเหมาะสำหรับขับขี่ในเมือง ภายในห้องโดยสารให้ความรู้สึกถึงการออกแบบเรียบง่าย ภายในเป็นสีทูโทน ให้ความรู้สึกพรีเมี่ยม เมื่อทดลองขับขี่ก็ทำได้ดีพอตัว ส่วนของอัตราเร่งทำได้ดี น้ำหนักพวงมาลัยไม่หนักเกินไปขับง่าย ส่วนของช่วงล่างยังมีอาการโยนเล็กน้อยตามสไตล์รถยนต์ไฟฟ้า ภายในห้องโดยสารมีมุมมองที่ปลอดโปร่ง ออกแบบได้ลงตัว ได้ลองนั่งด้านหลังก็ไม่ได้แคบจนเกินไปภายในมีขนาดกำลังดี และขนาดของตัวรถ GEELY EX2 ไม่ใหญ่มาก ทำให้ขับขี่ได้สะดวกสบาย จะเข้าจอดหรือจะกลับรถในที่แคบยิ่งง่าย ด้วยวงเลี้ยวเพียง 4.95 เมตร เท่านั้น ตัวรถไม่มีใบปัดน้ำฝนด้านหลัง  การเก็บเสียงในห้องโดยสารถือว่าทำได้ดี ถ้าขับขี่ในช่วงความเร็ว 80-100 กม./ ชม. แต่ถ้าขับเร็วขึ้นเสียงจะเริ่มเข้ามาตาม ส่วนระบบความปลอดภัยมีครบครัน ซึ่งหลายคนที่มองหารถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กไว้ใช้ รอลุ้นกับราคา โดย GEELY EX2 มีกำหนดเปิดตัว และประกาศราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการที่งาน Motor Expo 2025 โดยผู้เขียนคิดว่าราคาคาดการณ์อยู่ที่ 500,000 -700,000 บาท หรือผู้อ่านท่านใดคิดว่าน่าจะไหร่รอติดตามกัน