โตโยต้า ฉลองครบ 60 ปี ในไทย ร่วมเติมเต็มเป้าหมาย “ความเป็นกลางทางคาร์บอน”

โตโยต้า ฉลอง 60 ปี

โตโยต้า ฉลองครบ 60 ปี ในไทยร่วมเติมเต็มเป้าหมาย “ความเป็นกลางทางคาร์บอน”

มร. อากิโอะ โตโยดะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น และ มร. โนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ร่วมเปิดงาน “โตโยต้า ฉลองการดำเนินงานในประเทศไทยครบ 60 ปี” เพื่อแสดงความขอบคุณต่อทุกภาคส่วนผู้มีส่วนร่วมในความสำเร็จตลอด 60 ปี ที่ผ่านมา โดยได้รับเกียรติจากนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พร้อมด้วยแขกผู้มีเกียรติจากหลากหลายภาคส่วนเข้าร่วมแสดงความยินดี โดยในงานมีการเน้นย้ำวิสัยทัศน์และพันธกิจในการผลักดันประเทศไทยสู่การเป็นฐานการผลิตรถยนต์ที่สำคัญซึ่งรวมถึงรถยนต์พลังงานไฟฟ้า พร้อมกับการขยายผลแนวทางการมุ่งสู่เป้าหมาย “ความเป็นกลางทางคาร์บอน” ผ่านการแนะนำต้นแบบนวัตกรรมยานยนต์ยุคหน้าในทุกระบบส่งกำลังเพื่อตอบสนองทุกความต้องการของผู้บริโภค พร้อมยืนยันความมุ่งมั่นสานต่อเจตนารมณ์ในการมีส่วนร่วมเติบโตเคียงข้างสังคมไทยอย่างยั่งยืนต่อไป ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

 โตโยต้า ฉลอง 60 ปี

บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ก่อตั้งในวันที่ 5 ตุลาคม 2505 โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยอย่างต่อเนื่องทั้งในด้านการลงทุนขยายธุรกิจและการผลิตรถยนต์ ส่งผลให้อุตสาหกรรมยานยนต์และอุตสาหกรรมอื่นๆที่เกี่ยวข้องเกิดการเจริญเติบโต และมีบทบาทสาคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ    คิดเป็นสัดส่วนกว่า 12% ของมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ โดยบริษัท โตโยต้าฯ มียอดผลิตและจำหน่ายรถยนต์ในประเทศสะสมกว่า 7 ล้านคัน รวมถึงผลักดันประเทศไทยให้เป็นที่ยอมรับในฐานะฐานการผลิตเพื่อส่งออกสู่ตลาดโลกด้วยยอดการส่งออกกว่า 5 ล้านคัน นอกจากนี้ยังเป็นผู้นำในด้าน เทคโนโลยียานยนต์และคุณภาพการให้บริการภายใต้แนวคิด “Best in Town” เพื่อตอบสนองทุก ความต้องการของลูกค้าในทุกยุคสมัย ตลอดจนเป็นหนึ่งในองค์กรบรรษัทภิบาลชั้นนำของประเทศด้วยการดำเนินงานเพื่อส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทย ผ่านหลากหลายโครงการและนวัตกรรมเพื่อสังคม

โตโยต้า ฉลอง 60 ปี 

ทั้งนี้ ในโอกาสการดำเนินงานในประเทศไทยครบรอบ 60 ปี บริษัทฯ ได้มีการนำเสนอถึงแนวทางการดำเนินงานที่ยั่งยืนและเป็นรูปธรรม ในการบรรลุเป้าหมายการสร้าง “ความเป็นกลางทางคาร์บอน” (Carbon Neutrality) อันเป็นหนึ่งในพันธกิจหลักของกลุ่มบริษัทโตโยต้าทั่วโลก โดยโตโยต้าในฐานะ “องค์กรแห่งการขับเคลื่อน ที่มุ่งมั่นในการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าทุกรูปแบบ” หรือ “electrification full line-up car maker” ด้วยการเตรียมความพร้อมในหลากหลายแนวทาง หรือ “Multi - Pathway”  เพื่อทุกความเป็นไปได้ที่จะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากการเดินทางของผู้คน ในขณะที่ยังคงไว้ซึ่งปรัชญาของโตโยต้าที่จะเป็น “ผู้นำพาการขับเคลื่อนสำหรับทุกคน” โดยคำนึงถึงบริบทและปัจจัยในการเลือกใช้งานรถยนต์ที่เต็มไปด้วยความหลากหลายของผู้บริโภคแต่ละกลุ่ม กำลังซื้อ พลังงานที่มีอยู่ ความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐาน และศักยภาพทางอุตสาหกรรมของแต่ละประเทศ ด้วยเหตุนี้ โตโยต้าจึงได้พัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าและพลังงานทางเลือกต่างๆ เพื่อมอบทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่เป็นไปได้สำหรับทุกคน ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์พลังงานไฟฟ้าแบบไฮบริด (HEV) รถยนต์พลังงานไฟฟ้าแบบปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) รถยนต์พลังงานไฟฟ้า (BEV) และรถยนต์พลังงานไฟฟ้าแบบเซลล์เชื้อเพลิง (FCEV)

 โตโยต้า ฉลอง 60 ปี

นอกจากนี้ ยังเล็งเห็นว่ามากกว่าครึ่งหนึ่งของตลาดรถยนต์ในประเทศไทยถูกขับเคลื่อนด้วยรถกระบะเพื่อการพาณิชย์ โตโยต้าจึงถือโอกาสจัดแสดงรถกระบะต้นแบบพลังงานไฟฟ้า (IMV BEV Concept) ให้แขกภายในงานได้รับชม เพื่อแสดงถึงความเป็นไปได้ของเทคโนโลยีรถกระบะในอนาคตอีกด้วย

 

ทั้งนี้เพื่อเป็นการเน้นย้ำถึงการเตรียมความพร้อมการขับเคลื่อนยุคหน้าภายใต้แนวทาง Multi – Pathway โตโยต้ายังได้นำต้นแบบยานยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายในที่ใช้เชื้อเพลิงไฮโดรเจน (HICEV: Hydrogen Internal Combustion Engine Vehicle) มาเผยโฉมต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชีย เพื่อสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของโตโยต้าในการบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน เพื่อเพิ่มทางเลือกแก่ผู้คนโดยไม่จำกัดที่การใช้พลังงานใดพลังงานหนึ่ง ด้วยแนวคิดนี้ ส่งผลให้ยอดขายรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของโตโยต้าสะสมในประเทศไทยจนถึงปัจจุบันมีมากกว่า 150,000 คัน มีส่วนช่วยในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์กว่า 800,000 ตัน เทียบเท่ากับปลูกป่าบนพื้นที่ขนาด 97,000 ไร่ หรือ เทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้กว่า 2.4 ล้านต้น

โตโยต้า ฉลอง 60 ปี 

ภายในงาน ยังได้มีการจัดแสดงประวัติของโตโยต้าและบทบาทของโครงการ IMV (Innovative International Multi-purpose Vehicles) ที่มีต่อการขยายตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยไปสู่ตลาดโลก และเพื่อเป็นการสานต่อบทบาทของประเทศไทยในฐานะ 'ดีทรอยต์แห่งเอเชีย' และ 'เมืองหลวงศูนย์กลางรถกระบะโลก' พร้อมทั้งนำเสนอทางเลือกในการเดินทางสำหรับชีวิตประจำวันและอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม โตโยต้าได้ทำการเปิดตัวต้นแบบของรถกระบะอเนกประสงค์ภายใต้ชื่อ “IMV-0 Concept” ที่มุ่งเน้นความสะดวกในการปรับรูปแบบการใช้งานเพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลายของลูกค้าชาวไทย มาให้รับชมเป็นครั้งแรก ณ โอกาสนี้ด้วย

 

มร. อากิโอะ โตโยดะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่า “วันนี้ ผมขอขอบคุณทุกท่านจากใจจริง โตโยต้าได้เติบโต​ในประเทศไ​ทยโดยมีคนไทยทุกท่านเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เราได้มีโอกาสได้เฉลิมฉลองในวันนี้ สำหรับ​ตัวผมเอง​ มันไม่ใช่เรื่องของ จำนวนยอดขายรถที่เราทำได้ที่นี่ ​ สิ่งที่เราต้องการมอบให้ประเทศนี้มีมากกว่าแค่รถยนต์​ เช่น การช่วยสนับสนุนโอกาสทางเศรษฐกิจ ดังเช่น ความตั้งใจที่เราเลือกให้ประเทศ​ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตรถรุ่นใหม่ระดับโลกภายใต้โครงการไอเอ็มวี”

 

“การแนะนำรถกระบะไฮลักซ์ วีโก้ภายใต้โครงการไอเอ็มวียังคงเป็น ความทรงจำที่ผมประทับใจมากที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตการทำงานของผม เพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณ ผมจึงตัดสินใจที่จะสร้างรถไอเอ็มวีแบบใหม่ เพื่อให้เป็นรถกระบะสำหรับประเทศไทย ได้แก่รถต้นแบบใหม่ล่าสุด IMV 0 และ รถต้นแบบไฮลักซ์ รีโว่ ที่มาในระบบขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้า ทั้งสองรุ่นนี้ แสดงถึงแง่มุมที่แตกต่างในเชิงยนตรกรรม ซึ่งตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกันและเหมาะกับลูกค้าคนละกลุ่ม รุ่นหนึ่งถูกออกแบบมาเพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ส่วนอีกรุ่นถูกพัฒนาขึ้นเพื่อส่งเสริม การบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน และรักษาสิ่งแวดล้อมให้ดียิ่งขึ้น”

 

“เมื่อเอ่ยถึงการบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน  เราต้องเข้าใจว่า คาร์บอนคือศัตรูตัวจริง ไม่ใช่ระบบส่งกำลังแบบใดแบบหนึ่งโดยเฉพาะ ว่ากันตามตรงแล้ว​รถยนต์พลังงานไฟฟ้าไม่ใช่แค่ทางเลือกเดียว ที่จะช่วยบรรลุเป้าหมายในระดับโลก ที่โตโยต้า​ เราเชื่อในการสร้างสรรค์รถยนต์ให้ครบทุกประเภท เพื่อเป็นทางเลือกในการช่วยลดคาร์บอนสำหรับลูกค้าของเรา ตั้งแต่รถยนต์พลังงานไฟฟ้าแบบไฮบริด รถยนต์พลังงานไฟฟ้าแบบปลั๊กอินไฮบริด รถยนต์พลังงานไฟฟ้า รวมถึง รถยนต์พลังงานไฟฟ้าแบบเซลล์เชื้อเพลิง นอกจากนั้นเรายังมุ่งพัฒนา ทางเลือก​อื่นๆ ที่ใช้เชื้อเพลิงไฮโดรเจน อย่าง​ GR-Yaris และ GR-Corolla​ ซึ่งเป็นรถต้นแบบที่ขับเคลื่อน​ด้วยไฮโดรเจน ผมยังคงเชื่อว่า ในขณะที่เราพยายามเดินหน้าสร้างอนาคตที่ยั่งยืนเราจำเป็นต้อง​ใช้แนวทางแบบ อง​ค์รวม​เพื่อบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนร่วมกัน”

 

“เพื่อบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน เราจำเป็นต้องดำเนินงานร่วมกับอุตสาหกรรมอื่นๆ นอกเหนือจากอุตสาหกรรมยานยนต์ด้วย ดังนั้น ในวันนี้ผมจึงยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะประกาศแนะนำพันธมิตรใหม่ของเราคือบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยนั่นคือ เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) โดยเราจะร่วมมือกันในการลดคาร์บอนไดออกไซด์ โดยคิดทบทวนถึงวิธีการส่งมอบผลิตภัณฑ์ให้ผู้บริโภค ด้วยเทคโนโลยีที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์​อย่างรถบรรทุกเซลล์เชื้อเพลิง และด้วยการพัฒนาให้ระบบการขนส่งด้วยรถยนต์ประหยัดพลังงานมากยิ่งขึ้น ด้วยเทคโนโลยีการเชื่อมต่อของเรา นอกจากนั้นแล้ว ภายใต้ความร่วมมือนี้ เราจะยกระดับความพยายามของซีพีในปัจจุบันในการผลิตไฮโดรเจนสะอาดจากชีวมวล เช่น มูลไก่ อีกด้วย ผมตั้งตารอที่จะได้ร่วมกับซีพี นำจุดแข็งที่เรามีอยู่ร่วมกันเพื่อสร้างประโยชน์แก่ประเทศและผู้คนให้มากยิ่งขึ้น”

 

”และผมก็ยินดีที่จะแจ้งให้ทราบว่า พันธมิตรในครั้งนี้ประกอบด้วยสมาชิกอื่นๆ ของบริษัท Commercial Japan PartnershipTechnologies Corporation(CJPT) ประกอบไปด้วย ไดฮัทสุ ซูซูกิ อีซูซุ และฮีโน่ โดยบริษัท CJPT ก่อตั้งขึ้นเพื่อพัฒนาการขับเคลื่อนแห่งอนาคตโดยความร่วมมือกับองค์กรอื่นๆ ในอุตสาหกรรมของเรา เราชักชวนคู่แข่งให้มาร่วมมือเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่ง และเฟ้นหาความเป็นไปได้ในการลดคาร์บอนไดออกไซด์ร่วมกัน”

 

ภายในงาน ยังได้รับเกียรติจาก นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้กล่าวแสดงความยินดี และ แสดงความชื่นชม บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ที่ได้มีส่วนร่วมในการวางรากฐานให้อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยและธุรกิจเกี่ยวเนื่องได้เติบโตได้อย่างมั่นคง พร้อมกับขับเคลื่อนหลากหลายกิจกรรมที่มีส่วนในการกระตุ้นภาคเศรษฐกิจ และตอบสนองต่อนโยบายภาครัฐเพื่อความสุขของผู้คนและสังคมอย่างต่อเนื่อง

 

ทั้งนี้ นายโนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ได้กล่าวเสริมถึงแนวทางการดำเนินงานขององค์กรในยุคหน้า เพื่อขับเคลื่อนอนาคตแห่งความสุขของลูกค้าและผู้คน และ ส่งเสริมวิสัยทัศน์และพันธกิจในการขับเคลื่อนประเทศของภาครัฐ ว่าในนามของโตโยต้า​ ผมขอถือโอกาสนี้ขอบคุณประเทศไทย​ รัฐบาล​ไทย เครือข่ายธุรกิจ และประชาชนชาวไทย​สำหรับการสนับสนุน​และความกรุณา​อย่างดียิ่งที่มีให้แก่เรา ตลอด​ 60 ปีที่ผ่านมา โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทยมีบทบาทสำคัญ​ในการผลักดัน​ให้โตโยต้าเติบโตในระดับโลก เป็นหนึ่งในศูนย์กลางการผลิตของโตโยต้​า มียอดการผลิต​สูงเป็นลำดับ​ที่​ 4 รองจากญี่ปุ่น​ จีน​ และสหรัฐ​อเมริกา และได้รับเลือกให้เป็นผู้ริเริ่มบุกเบิกหลากหลายพันธกิจสำคัญในภูมิภาค​อาเซียน เราภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันอุตสาหกรรม​ยานยนต์​ไทยให้เติบโตจนยิ่งใหญ่เป็นลำดับที่​ 10 ของโลก ตลอดจนมีส่วนร่วมในการส่งเสริมการพัฒนาสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม

 

ที่ญี่ปุ่น​นั้น การมีอายุครบ​ 60 ปี นับเป็นโอกาสที่พิเศษมาก เราเรียกกันว่า คันเรกิ แปลว่า​ การเกิดใหม่ ที่เราจะกลับสู่การเริ่มต้นอีกครั้งด้วยภูมิปัญญาและประสบการณ์​ที่ได้สั่งสมมา วันนี้​ โตโยต้า​ มอเตอร์​ ประเทศไทย​ ได้เฉลิมฉลอง​ คันเรกิ ของเรา ด้วยความมุ่งมั่นที่จะยกระดับการดำเนินงานในทุกมิติ เราจะมอบประสบการณ์​การขับเคลื่อน​ที่ไร้รอยต่อผ่านแพลตฟอร์มการเชื่อมต่อดิจิทัล​ของเราเพื่อให้ลูกค้าได้รับการบริการ​ที่ดียิ่งขึ้น​ เราจะร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อศึกษาหาวิธีการพัฒนาเทคโนโลยีการขับเคลื่อนเพื่อสร้างโลกที่ปราศจากการปล่อยมลพิษสอดรับกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน รวมถึงพร้อมที่จะให้การสนับสนุนและกำหนด​เป้าหมายการดำเนินงานตามแนวทางของภาครัฐ ตลอดจนยกระดับการดำเนินงานในด้านสังคม เพื่อสิ่งแวดล้อม​และผู้คนในสังคม เรารู้สึกยินดี ที่องค์กรของเราสามารถพัฒนามาได้ไกลขนาดนี้ เราจะไม่มีวันหยุดพัฒนาเพื่อมอบคุณภาพชีวิตที่ดีของลูกค้า และร่วมขับเคลื่อนอนาคตที่ดีสู่พี่น้องชาวไทย ทั้งในอีก 60 ปีข้างหน้า และในอนาคตถัดไปจากนั้น


 

ข่าวรถ

Visitors: 1,951,949